อั้งโล่ บาย ย่างแรก (Aunglo by Yangrak) อาหารไทย ของคนรุ่นใหม่ กับเอกลักษณ์เฉพาะตัว
อั้งโล่ บาย ย่างแรก (Aunglo by Yangrak) ร้านอาหารของคนรุ่นใหม่ที่ซ่อนตัวอยู่ในตึกแถวของ ถนนเดโช ท่ามกลางบรรยากาศเก่าๆ ของย่านสีลม-สาทร ด้านหลังของประตูไม้ใหญ่ที่เป็นทางเข้าร้านคือ ร้านอาหารไทย ในสไตล์อิซากายะ ของกลุ่มเชฟรุ่นใหม่ ภาพแรกที่เห็นคือโต๊ะบาร์ที่ทอดยาวจากหน้าร้านยาวไปจนถึงหลังร้าน ด้านหลังโต๊ะบาร์ก็จะเป็นพื้นที่ของเชฟที่เอาไว้รังสรรค์เมนูสุดสร้างสรรค์ พร้อมกับ อั้งโล่ ที่เป็นหัวใจในครัว
ถึงผมจะออกตัวว่าเป็น ร้านอาหารไทย สไตล์อิซากายะ แต่อาหารที่เสิรฟ์ไม่ได้มีแค่อาหารเนื้อสัตว์เสียบไม้ย่าง แต่ยังมีอาหารเป็นกับ และอาหารจานเดี่ยวอีกด้วย
อาหารปิ้งย่างไม้ๆ มีกลิ่นหอมจากการย่างผ่านเตาอั้งโล่จนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานกับการปรุงที่เน้นรายละเอียด ทำให้รสชาดอาหารออกมามีความซับซ้อนเข้มข้นมากพอสมควร กับข้าวเองก็มาในขนาดพอดีๆ หน้าตาแปลกใหม่ รวมไปถึงวัตถุดิบที่มีความไทยไปถึงฮ่องกง จนถึงอาหารประเภทข้าวจานเดียวที่ปริมาณสามารถให้ใครที่มาคนเดียวกินอิ่มได้ในมื้ออีกด้วย
เมนูของ อั้งโล่ บาย ย่างแรก (Aunglo by Yangrak) ที่อยากแนะนำ
- บ้าบิ่นหน้ากุ้งซอสแกงคั่ว
- หมูแดงอั้งโล่
- ยำส้มโอ
- ข้าวผัดต้มยำกากหมูไข่ดาวดอง
- ยำชมพู่ภูเขาไฟ
- ฟักทองย่างซอสมัสมั่น
- หมูสามชั้นย่างเกลือหวานปัตตานี
- สะโพกไก่ย่างเกลือหวานปัตตานี
- ขนมครกจิ้มน้ำตาลขี้ม่อนคั่ว
- ไอติม Corn with Brown Butter
- ทองพลุสังขยากะทิสด
- Craft Tonic Water
บ้าบิ่นหน้ากุ้งซอสแกงคั่ว (180.-)
ตอนแรกอ่านชื่อเมนูแล้วก็ได้แต่คิดสงสัยว่า มันจะเข้ากันจริงๆ หรอ แต่พอกินเข้าไปเท่านั้น นี่คือความคอนทราสต์ของ อาหารไทย ที่รวมกันได้อย่างลงตัว แป้งนุ่มหนึบของขนมบ้าบิ่น กับกุ้งที่สุกพอดีๆ แบบเด้งกรุบๆ ได้รสหวานมันเผ็ดจากซอสแกงคั่ว อร่อยมากๆ บอกเลยว่าอันนี้คือต้องสั่งครับ
หมูแดงอั้งโล่ (170.-)
หมูแดงที่ออกมาในสไตล์ฮ่องกงฉ่ำๆ ทางร้านจะทำการสโลว์คุกในเตาอบเป็นเวลา 3 – 4 ชั่วโมง ก่อนจะนำออกมาย่างบนเตาอั้งโล่ เสิร์ฟพร้อมน้ำพริกสูตรเฉพาะจากทางร้าน กับกะหล่ำผัดน้ำปลา ทุกอย่างกินแกล้มกันได้อย่างลงตัว เรียกว่าเป็นไฮไลท์ที่ต้องสั่งเลยถ้ามาทานที่ร้านนี้
ยำส้มโอ (180.-)
ยำส้มโอ เมนูสุดคลาสสิกของ อาหารไทย ความพิเศษของเมนูนี้คือ นอกจากจะเสิร์ฟด้วยส้มโอชิ้นพอดีคำแล้ว ยังมีกุ้งที่ปรุงมาแบบสุกพอดี ได้ความหนึบเด้งอย่างลงตัว นอกจากนั้น น้ำพริกที่ปรุงมีความกลมกล่อม สามารถผสมผสานได้อย่างลงตัวกับรสเปรี้ยวอมหวานของส้มโอ ฟองๆ ด้านบนคือโฟมกะทิ ที่ทำหน้าที่ผสานรสทั้งหมดของจานนี้ให้รวมกันได้อย่างลงตัวที่สุด
ข้าวผัดต้มยำกากหมูไข่ดาวดอง (180.-)
เมนูข้าวจานเดียวเมนูเดียวของมื้อครับ ปริมาณถือว่าให้มาทานอิ่มแน่นอน ขึ้นชื่อว่าเป็นข้าวผัดต้มยำ แต่รสไม่เผ็ดจนเกินไป ส่วนตัวคิดว่าความเผ็ดเปรี้ยวถูกปรุงมาได้ในปริมาณพอดี เสิร์ฟพร้อมกากหมูกับไข่ดาวดองที่เยิ้มมากๆ รสนัวๆ กินทุกอย่างพร้อมกันในหนึ่งคำคือฟินสุดๆ ครับ
ยำชมพู่ภูเขาไฟ (180.-)
เมนูพิเศษช่วงนี้ (เดือนพฤษภาคม) คือ ยำชมพู่ภูเขาไฟ เป็นจานนึงที่ทานแล้วรู้สึกสดชื่นมากๆ จานนึง มีทั้งรสหวานจากชมพู่ รสเปรี้ยวจากมะม่วง ความเค็มจากกุ้งสับ และความเผ็ดจากพริกยำ เรียกว่าเป็นจานที่ครบรสมากๆ เลย
ฟักทองย่างซอสมัสมั่น (75.-)
เป็นเมนูฟักทองที่นุ่มมากๆ แต่ไม่เละ ราสด้วยซอสมัสมั่นที่เข้มข้นจัดจ้าน กินได้เพลินๆ เลยครับ
หมูสามชั้นย่างเกลือหวานปัตตานี (ไม้ละ 75.-)
เมนูหมูย่างที่คนไทยคุ้นเคยกันดีตามสตรีทฟู้ดทั่วไทย ถูกยกระดับด้วยเชฟรุ่นใหม่ เพิ่มความสร้างสรรค์ในเชิงวัตถุดิบและรายละเอียด นอกจากโรยเกลือพอดีๆ แล้ว กลิ่นหอมจากเตาอั้งโล่ก็เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับคนกินได้เป็นอย่างดี
สะโพกไก่ย่างเกลือหวานปัตตานี (ไม้ละ 60.-)
อีกเมนูที่ถูกยกระดับจากสตรีทฟู้ด สะโพกไก่ที่ถูกอย่างแบบพอดีๆ ไม่เกรียมจนเกินไป พร้อมกลิ่นหอมแบบเอกลักษณ์จากการย่างบนเตาอั้งโล่
ขนมครกจิ้มน้ำตาลขี้ม่อนคั่ว (60.-)
ขนมครกร้อนๆ เนื้อเนียนๆ โรยหน้าด้วยบรูเล่น้ำตาล เสิร์ฟพร้อมงาขี้ม่อนคั่ว ที่ให้โรยไว้ด้านบนตอนกิน เมนูนี้ถือเป็นขนมหวานแบบง่ายๆ ที่อร่อยกว่าที่คิดมากๆ ใครไม่ชอบหวานมากก็โรยงาขี้ม่อนคั่วน้อยๆ ได้ เป็นการปิดมื้อได้แบบดีเยี่ยม
ไอติม Corn with Brown Butter (120.-)
ของหวานที่เสิร์ฟมาเป็นถ้วยไอติม ตัวไอติมมีความหอมนัวๆ อารมณ์เหมือนกินข้าวโพดอบเนย ไม่หวานเกินไป รสออกแนวแปลกๆ ใหม่ๆ แนะนำให้มาลองดูครับ ส่วนตัวชอบเพราะความนัวและความที่ไม่หวานจนเกินไป
ทองพลุสังขยากะทิสด (60.-)
เมนูที่หยิบขนมไทยโบราณอย่าง ทองพลุ มาประยุกต์ใหม่ สอดไส้สังขยากะทิสด รู้สึกเหมือนกินชูครีมเลย หวานพอดีๆ กลมกล่อมมากๆ
Craft Tonic Water (ขวดละ 85.-)
น้ำโทนิคสุดพิเศษ นอกจากความเปรี้ยวขมที่คนดื่มโทนิคจะคุ้นเคยกันดีแล้ว น้ำโทนิคของร้านยังมีกลิ่นที่พิเศษเพิ่มเติมไปด้วย เราสั่งมาทั้ง 2 แบบคือ Bitter Lemon ที่รสและกลิ่นออกเปรี้ยวๆ อารมณ์้เปลือกมะนาว กระตุ้นความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี และ Floral น้ำโทนิคที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้นิดๆ ไม่แรงมาก รวมกับรวเปรี้ยวซ่านิดๆ รู้สึกสดชื่นมากๆ สายชอบดื่มน้ำอร่อย น้ำแปลก ต้องลองดูครับ
สรุปโดยรวมของร้าน อั้งโล่ บาย ย่างแรก (Aunglo by Yangrak)
นี่ถือเป็น ร้านอาหารไทย ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองสูง สามารถรังสรรค์อาหารไทยออกมาได้เอร็ดอร่อยยอดเยี่ยมทุกจาน แถมด้วยหน้าตาอันแปลกใหม่ กับการผสมผสานวัตุดิบไทยให้ออกมาในรูปแบบสร้างสรรค์ ทำให้ผมอยากชวนเพื่อนๆ ไปลองครับ ส่วนตัวเองก็อยากไปซ้ำเหมือนกัน ติดใจมากๆ โดยเฉพาะ หมูแดงอั้งโล่ ที่ส่วนตัวให้เป็นไฮไลท์เลยครับ ใครที่อยากตามไปลอง ผมแนะนำให้จองก่อนไปนะครับ
เวลาเปิดปิด: 11:30 – 14:30 และ 17:00 – 22:00 (หยุดวันอังคาร)
Facebook: https://www.facebook.com/aunglo.by.yangrak/
Google Maps: https://goo.gl/maps/Yk73khXCsM7YZvSP7
ที่อยู่: 6, 8 ถนน เดโช แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
ที่จอดรถ:
- ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 2 (จอดริมถนน วันคู่ / วันคี่)
- อาคาร BUI (เสียค่าจอดรถชั่วโมงละ 30.- แต่สามารถนำบัตรจอดรถมารับส่วนลดค่าอาหารได้ 60.-)
- ตึก AIA สำนักงานใหญ่ (เฉพาะวันจันทร์ – วันศุกร์ ช่วงกลางวัน) สามารถปั๊มบัตรจอดรถได้ที่ชั้น G หลัง True Coffee บริเวณสำนักงาน (ปั๊มบัตรฟรี 2 ชั่วโมง ชั่วโมงต่อไปชั่วโมงละ 50.-)
Leave a Reply