Ittha Boutique Cafe คาเฟ่ปุณณวิถี ในรูปแบบปราสาทยุโรปยุคกลาง

คำว่า Ittha (อิฏฐา) แปลว่า ‘Pleasing’ หรือ ‘ความพึงใจ’ นี่คือที่มาของชื่อ Ittha Boutique Cafe ที่ต้องการให้ลูกค้าทุกคนมีความสุขกลับไปหลังได้มาเยือนคาเฟ่แห่งนี้

นี่คือคาเฟ่ที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นไม่เหมือนใคร เมื่อเดินทางเข้ามาที่ ซอยปุณณวิถี 33 จนสุดทางแล้ว ก็จะพบกับตึกทึบสีขาวหมายเลข 88 ที่ภายในถูกตกแต่งในสไตล์เรเนซองส์ ราวกับปราสาทยุโรปยุคกลางที่ถูกนำมาซ่อนไว้ที่นี่ ตัวตึกเป็นอาคาร 4 ชั้น โดยชั้นที่ 1 จะเป็นที่ตั้งของคาเฟ่ และร้านเครื่องหอมสปาแบรนด์ PHNA ส่วนชั้น 2 ก็จะเป็น Art Gallery ที่มีรูปจัดแสดงโชว์อยู่ตลอดทางเดิน

บรรยากาศภายในร้าน Ittha Boutique Cafe

เมื่อก้าวผ่านประตูเข้าไปก็จะพบกับเคาน์เตอร์สั่งอาหาร ต่อด้วยพื้นที่สำหรับนั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม พื้นที่ส่วนใหญ่จะถูกตกแต่งด้วยกลิ่นอายแบบย้อนยุค ไม่ว่าจะเป็นอิฐเปลือย บันไดเหล็ก หรือแม้กระทั่งผนังปูนเปลือย ผสมผสานกับความสมัยใหม่ของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ทำให้มีลุคที่ดูคอนทรานส์แต่ลงตัวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ภายในส่วนของห้องโถงที่นั่งยังมีความสว่างจากกระจกบานใหญ่จากด้านข้างของตัวตึก พร้อมๆ กับความร่มรื่นที่ได้จากต้นไม้กลางร้าน ทำให้บรรยากาศมีความเป็นธรรมชาติและสงบมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ทางร้านยังมีมุมสวยๆ ให้ชาว Cafe Hopper ได้แวะมาแชะรูปกันได้อีกมากมาย ได้รูปออกมาเหมือนไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่ต่างประเทศเลยทีเดียว ยิ่งพื้นที่ชั้น 2 เพื่อนๆ สามารถแวะขึ้นมาถ่ายรูประหว่างรออาหารและเครื่องดื่มได้ รับรองว่าจะได้รูปที่เก๋ๆ ไม่ซ้ำคาเฟ่ไหนๆ แน่นอน

อย่างที่บอกไปด้านบนว่านอกจากโซนคาเฟ่แล้ว ที่ชั้น 1 ยังมีโซนร้านเครื่องหอมสปาแบรนด์ PHNA ให้เพื่อนๆ มาเลือกดูเลือกชมกันได้ รวมถึงด้านหน้าร้านก็ยังมีโซนขายของแฟนชั่นเก๋ๆ สุดชิคอีกด้วย

อาหารและเครื่องดื่ม

“Real food is how food should be” นี่คือแนวคิดที่มีต่ออาหารของคาเฟ่แห่งนี้ ที่นี่เขาจะเน้นเสิร์ฟอาหารให้มีความธรรมชาติที่สุด โดยที่ทางร้านมีขั้นตอนการปรุงที่จะปนเปื้อนสารเคมีและผ่านกระบวนการให้น้อยที่สุด เพื่อคงคุณค่าทางโภชนาการไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น นมออร์แกนิกสั่งตรงจากฟาร์ม ไซรัปน้ำตาลอ้อยอินทรีย์โฮมเมด หรือไซรัปวานิลลาที่ทำจากน้ำตาลอ้อยอีกเช่นกัน

เมนูที่เราสั่งคือ Apple Crumble (140.-) และ Basque Cheesecake with Fresh Fruits (225.-)

ตัว Apple Crumble มีรสหวานอมเปรี้ยวจากส่วนผสมของแอปเปิ้ลแดงและแอปเปิ้ลเขียวสด ผสมผสานได้อย่างลงตัวกับตัว crumble ที่ทำจากแป้งออร์แกนิค น้ำตาลอ้อย และไข่ออร์แกนิค พร้อมกับซอสวานิลลาโฮมเมดจากวานิลลาสกัดบริสุทธิ์จากมาดากัสการ์

ในส่วนของ Basque Cheesecake with Fresh Fruits นี่คือ ชีสเค้กสูตรออริจินัลอบจากครีมชีสพรีเมียม ไข่ออร์แกนิก และน้ำตาลออร์แกนิกไม่ฟอกสี ท็อปด้วยมาสคาโปนชีสและผลไม้สด ไม่หวานเกินไป กำลังพอดีๆ พร้อมกับได้ความสดชื่นจากผลไม้สดๆ อย่างสตรอเบอร์รี่และบลูเบอร์รี่

ในส่วนของเมนูเครื่องดื่มก็มีให้เลือกมากมายตั้งแต่เมนูกาแฟที่ใช้เป็น Brazilica Blend ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างเมล็ดกาแฟ Brazil Tigers และ Doi Chang ทำให้รสกาแฟที่ออกมามีความนัตตี้ และช็อกโกแลตนิดๆ จนถึงเมนู Non-Coffee ต่างๆ ทั้งโซดา ชา หรือนมอีกด้วย โดยเมนูที่แนะนำของทางร้านก็คือ Dirty Coffee (145.-), Raspberry Rose Soda (145.-) และ Lychee Lime Soda (145.-)

สรุป

นี่ถือว่าเป็นคาเฟ่ย่านปุณณวิถีที่ผมอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองมากัน นอกจากสไตล์การตกแต่งที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ มีมุมถ่ายรูปสวย ที่นั่งเยอะ และบริเวณร้านที่กว้างขวางแล้ว แนวคิดเรื่องอาหารแบบ Real Food ยังถือว่าเป็นแนวคิดที่น่าสนับสนุน และสามารถทำให้เรามั่นใจได้ว่าอาหารจากคาเฟ่แห่งนี้จะไม่ทำร้ายสุขภาพของเราแน่ๆ แถมตัวคาเฟ่เองก็ยังเป็น Pet Friendly Cafe อีกด้วย เพื่อนๆ คนไหนที่อยากพาน้องๆ สัตว์เลี้ยงมาด้วย ทางร้านก็อนุญาตเช่นกัน