แจกแพลน! เที่ยวกาญจนบุรี 4 วัน 3 คืน – เที่ยวสังขละบุรี นอนแพฮีลใจสุดชิลล์พร้อมวิวหลักล้าน ต่อด้วย เที่ยวเมืองกาญสุดฟิน เน้นกินเน้นนอน

ทริปท่องเที่ยวยาวๆ กลับมาอีกครั้ง! วันนี้พวกเรา Girlfriend Go Go จะมาพาทุกคนไป เที่ยวกาญจนบุรี 4 วัน 3 คืน โดยในทริปนี้พวกเราไม่ได้อยู่แค่ในตัวเมืองกาญจนบุรีเท่านั้น แต่พวกเราจะพาเพื่อนๆ ไป เที่ยวสังขละบุรี ด้วย รับรองได้ทั้งพักผ่อน กินอาหารสุดอร่อย แวะคาเฟ่ลับ ทำกิจกรรมอีกนิดๆ หน่อยๆ เรียกว่าเป็นทริปที่ครบรสมากๆ หากเพื่อนๆ พร้อมแล้วก็ไปดูแพลนเที่ยวของพวกเรากันเลย! Go Go!

ในทริปนี้พวกเราเที่ยวโดยใช้รถยนต์เป็นหลักครับ ขับจากกรุงเทพฯ ยาวไปจนสุดประเทศที่สังขละบุรีกันเลยทีเดียว สิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบขับรถเที่ยวแบบพวกเราคือการที่เราต้องตรวจเช็คสภาพรถก่อนเดินทางไกล เพื่อให้การเดินทางราบรื่นและไม่ต้องปวดหัวกับปัญหารถเสียหรืออุบัติเหตุระหว่างทางนั้นเอง ดังนั้นก่อนออกเดินทางไกล พวกเราอยากให้เพื่อนๆ ลองอ่าน 7 จุดสำคัญ วิธีเช็ครถก่อนเดินทางไกลด้วยตัวเอง เบื้องต้น เพื่อเป็นแนวทางในการตรวจเช็คสภาพรถของเพื่อนๆ ก่อนออกเดินทางไปเที่ยวกันนะครับ

ตาราง เที่ยวกาญจนบุรี และ เที่ยวสังขละบุรี

เที่ยวกาญจนบุรี-สังขละบุรี วันที่ 1

ครัวคุณตุ้ม

ล้อหมุนออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 9 โมงกว่าๆ ค่อยๆ ขับจนมาถึงกาญจนบุรีก็ประมาณเที่ยงๆ แล้ว พวกเราเลยขอแวะพักเติมพลังอาหารเที่ยงกันที่ ครัวคุณตุ้ม ร้านอาหารไทยท้องถิ่นรสดั้งเดิมของกาญจนบุรี ที่อาหารทุกอย่างรสจัดจ้านมากๆ สายอาหารรสจัด อาหารป่า บอกเลยว่าถูกใจร้านนี้แน่ๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่ทานเผ็ดไม่เก่งก็ขอให้เขาลดปริมาณความเผ็ดได้นะครับ และส่วนตัวผมแนะนำว่าให้เพื่อนๆ สั่ง ผักชุบแป้งทอด ไว้กินแก้เผ็ดกันด้วยนะ

เมนูที่พวกเราสั่งก็ตามนี่้เลย

• ต้มยำปลาคังน้ำใส (180.-)
• ใบเหลียงผัดไข่ (80.-)
• แกงป่าหมูชิ้น (120.-)
• หมูแดดเดียว (120.-)
• อินทรีย์ซีอิ๊ว (300.-)
• ผัดชุบแป้งทอด (120.-)

อิ่มท้องเสร็จปุ๊บก็ได้เวลาล้อหมุนออกไป เที่ยวกาญจนบุรี กันต่อเลย

เวลาเปิดปิด: 11.00น. – 20.00น. (ทุกวัน)

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/sGPRAZUpE5D4vT6u7

Hua Cha Tea House

ก่อนหน้าที่จะเดินทางไกลยิงตรงไป เที่ยวสังขละบุรี พวกผมก็ขอแวะหาที่เติมคาเฟอีนกันสักหน่อย หาข้อมูลไปๆ มาๆ ก็มาสะดุดกับร้าน Hua Cha Tea House ที่บอกเลยว่า นี่มันคาเฟ่ลับแห่งจังหวัดกาญจนบุรีชัดๆ !

นี่คือร้านชาสุดลึกลับที่บอกเลยว่าทุกอย่างดีเกินคาดมากๆ ตัวคาเฟ่ตั้งอยู่บนแพ ริมแม่น้ำแควน้อย ตกแต่งในสไตล์จีน เสิร์ฟทั้งชาและกาแฟที่บอกเลยว่าทั้งหอมและอร่อยสุดๆ แถมมีขนมของว่างแปลกๆ ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกให้ลองชิมด้วย และเขายังมีมุมให้ลองเขียนพู่กันด้วยนะครับ ใครอยากลองเขียนโชว์ลายมือสวยๆ ก็ทำได้เลยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

เพื่อนๆ สามารถดูรายละเอียดและรีวิวฉบับเต็มได้ที่ลิงค์ด้านล่างได้เลย!

เวลาเปิดปิด: 9.00น. – 19.00น. (ทุกวัน ยกเว้นวันศุกร์) / 9.00น. – 17.00น. (วันศุกร์)

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/dZ9AfMUvbcA8Ca3M9

เข้าพักที่ แพลุงบุญ สังขละบุรี -โซน A

หลังจากขับมาทั้งวัน ในที่สุดก็เดินทางมาถึงที่พักในสังขละบุรีในเวลาประมาณ 4 โมงกว่าๆ ในทริปนี้พวกเราเลือกพักที่ แพลุงบุญ สังขละบุรี -โซน A

ที่นี่คือที่พักที่มีโลเคชั่นล้ำมาก เป็นแพที่อยู่ริมแม่น้ำซองกาเลีย ได้ชมวิวสะพานมอญแบบวิวหลักล้าน แบบไม่ต้องไปแย่งกับคนอื่น จะถ่ายรูปคู่สะพานมอญยังไงก็สวย

ห้องที่ผมและกุ้งกับเพื่อนๆ ไปพักคือห้อง A2 (พัก 2 คืน 4 คน ราคารวมทั้งหมด 10,800.- หารมาแล้วตกคนละ 1,350.- ต่อคืนเท่านั้น!) ที่แพมีห้องแยกให้ทั้งหมด 2 ห้อง แต่ละห้องมี 2 เตียงใหญ่ เรียกว่าเพื่อนๆ สามารถยกแก๊งค์มาตี้ได้แบบสูงสุด 8 คนเลยทีเดียว แถมบอกเลยว่านอกจากห้องพักสวยๆ กว้างๆ แล้ว บริการต่างๆ เขาก็มีให้แบบจุกๆ ไปเลย และที่สำคัญรวมอยู่ในค่าห้องแล้ว ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม!

เพื่อนๆ สามารถดูรายละเอียดและรีวิวฉบับเต็มได้ที่ลิงค์ด้านล่างได้เลย!

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/KcUyFx18siJyXu6W6

ทานอาหารเย็นที่ แพลุงบุญ สังขละบุรี -โซน A

ตกเย็นก็ไม่ได้ออกไปไหนต่อครับ ทางที่พักเขามีบริการสั่งอาหารจากร้านใกล้เคียงมาทานบนแพได้ ซึ่งมาวิวแบบนี้ทั้งที พวกเราทั้ง 4 คนก็จัดไปเลยครับ หมูกระทะจุกๆ ปิ้งไปกินไปพร้อมชมวิวสะพานมอญยามค่ำคืน บอกเลยว่าฟินสุดๆ ครับ

เที่ยวกาญจนบุรี-สังขละบุรี วันที่ 2

เดินเล่นสะพานมอญ

กิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมา เที่ยวสังขละบุรี นั่นก็คือการตื่นเช้าไปตักบาตรและเดินเล่นชมวืวสะพานมอญตอนเช้า พวกเราตื่นกันตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพื่ออาบน้ำ แต่งตัว และเตรียมตัวไปใส่บาตรกัน หากเพื่อนๆ นอกค้างที่ แพลุงบุญ สังขละบุรี -โซน A ทางที่พักจะมีชุดมอญเตรียมให้เพื่อนๆ ไว้ใส่กันได้ด้วย

เพื่อนๆ สามารถตักบาตรได้ทั้งหมด 2 ฝั่ง คือฝั่งไทย และ ฝั่งมอญ โดยที่คนส่วนใหญ่จะไปจับจองกันที่ฝั่งมอญครับ พวกเราเลยเลือกที่จะตักบาตรฝั่งไทยแทน

หลังจากตักบาตรเสร็จ พวกเราก็ค่อยๆ เดินเล่นถ่ายรูปบนสะพานมอญ ซึ่งระหว่างทางก็จะมีน้องๆ ชาวมอญแต่งตัวมาต้อนรับ มีมาชวนปะแป้ง และเพื่อนๆ สามารถถ่ายรูปเล่นกับน้องๆ ได้ด้วยนะครับ

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/bUZNufZrxf3YK1Ga7

โจ๊กนั่งยอง

ร้านแรกที่มาก็คือร้านโจ๊กชื่อดังของฝั่งมอญ ร้านโจ๊กนั่งยอง ร้านนี้บอกเลยว่าคนต่อคิวยาวมาก ร้านเป็นแนว self-service คือต่อคิว สั่งอาหาร แล้วค่อยหาโต๊ะนั่ง ซึ่งถ้าไปคนเดียวผมบอกเลยว่าโอกาสหาโต๊ะนี่ยากมากๆ แนะนำว่าให้ไปอย่างน้อย 2 คนนะครับ คนนึงหาโต๊ะระหว่างที่อีกคนไปต่อคิวสั่งอาหาร

เมนูที่พวกเราสั่งก็คือ

• โจ๊กหมูใส่ไข
• ไข่ลวก
• โรตีโอ่ง + แกงฮังเลมอญ (เมนูนี้ผมแนะนำ อร่อยมากกกกก)

เวลาเปิดปิด: 6.00น. – 17.00น. (ทุกวัน)

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/7Ng4wTLs7rAsXN8R9

ร้านขนมจีนเส้นสดป้าหยิน

ยังครับ หลังจากจบจาก โจ๊กนั่งยอง พวกเราก็ไปตระเวณทางอีกร้านที่อยู่ใกล้ๆ ชื่อว่า ร้านขนมจีนเส้นสดป้าหยิน ร้านอาหารพื้นบ้านของชาวมอญ ร้านอยู่ติดๆ กับทางขึ้นสะพานเลยครับ ร้านนี้แน่นอครับว่ามีดีที่ขนมจีน โดยเมนูไฮไลค์ก็คือ ขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วย ที่ผมไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อนเลย

เมนูที่พวกเราสั่งคือ

• ไข่กระทะ
• ขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วย
• โจ๊กหมูใส่ไข่ (อีกแล้ว)
• ปาท่องโก๋ราดนม

เวลาเปิดปิด: 6.00น. – 18.00น. (ทุกวัน)

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/SE1BE1ntXgH5sHC1A

ทานอาหารเช้า (อีกรอบ) ในที่พัก แพลุงบุญ สังขละบุรี -โซน A

หลังจากอิ่มหนำกับการเดินตระเวณกินที่ฝั่งมอญ พวกเราก็เดินข้ามสะพานมอญกลับมายังที่พัก ซึ่งระหว่างทางก็ยังคงมีการถ่ายรูปเล่นและชมวิวไปมาเหมือนเดิมครับ

สิ่งที่พวกเราลืมไปก็คือทางที่พักได้จัดอาหารเช้าไว้ด้วย! โดยเป็นการรวบรวมเอาเมนูชื่อดังของสังขละบุรีมาอยู่ในชุด ไม่ว่าจะเป็น โจ๊ก ปาท่องโก๋ หมูปิ้ง ขนมจีน ซาโมซ่า ทอดมัน และผลไม้ เรียกว่าครบเลยครับ สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่อยากไปต่อคิวทานอาหารฝั่งมอญ สามารถนอนรอสวยๆ ชิคๆ อยู่บนแพได้เลยครับ ทางที่พักจะนำมาเสิร์ฟให้่ถึงหน้าห้องเลย

วัดจมน้ำ

หลังจากอิ่มหนำกันแล้ว พวกเราก็พร้อมแล้วที่จะไป เที่ยวสังขละบุรี โดยที่แรกก็คือการล่องเรือออกไปทัวร์วัดจมน้ำ ซึ่งทัวร์นี้เป็นบริการฟรีของทางที่พักแบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเลย สิ่งเดียวที่พวกเราต้องทำก็คือนัดล่วงหน้าแค่นั้นครับ จากนั้นไปพบกับพนักงานที่จุดนัดพบ (ซึ่งก็คือหลังที่พัก) แล้วจะมีเรือจะมารับเลย

เรือจะพาเราล่องไปในเขื่อนเพื่อชม unseen ของ สังขละบุรี อย่างวัดจมน้ำ หรือชื่อจริงๆ คือ วัดวังก์วิเวการาม (เก่า) ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ของที่นี่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 โดยในตอนแรก ตัววัดเองก็ตั้งอยู่บนพื้นดินปกติ ไม่ได้จมน้ำอะไร ทุกคนสามารถเดินเท้าเข้ามาชมได้ แต่ต่อมามีการก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งน้ำในเขื่อนนั้นจะเข้าท่วมตัวอำเภอสังขละบุรีเก่ารวมทั้งวัดนี้ด้วย เลยได้ทำการย้ายวัดมาอยู่บนเนินเขาแทน ส่วนวัดเก่านี้ก็ได้จมอยู่ใต้น้ำมานานราวสิบปี เหลือเพียงซากปรักหักพังของวัดเท่านั้น

ซึ่งจริงๆ แล้วในปัจจุบัน เพื่อนๆ ยังสามารถเข้ามาชมวัดแบบไม่จมน้ำได้ในระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม เพราะน้ำในแม่น้ำจะลดลงมาก จนสามารถเดินเข้าไปในตัวโบสถ์ได้ เรียกว่าถ้ามา เที่ยวสังขละบุรี ช่วงหน้าร้อนแล้วละก็นี่เป็นจุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาดเลย

หลังจากไปทัวร์เสร็จกลับมาที่พักแล้ว พวกเราก็ของีบเอาแรงสักหน่อย เพราะตื่นเช้ากันมากเกินไปหน่อย

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/ytddbWMvUj4z83b59

ด่านเจดีย์ 3 องค์

หลังจากงีบกันมาสักพัก เวลาประมาณ 11 โมง พวกเราก็ออกเดินทางไปยังชายแดนสุดของสยามประเทศที่ ด่านเจดีย์ 3 องค์

ที่นี่ไม่ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่อลังการมากนักแต่ถือเป็นจุดเช็คอินเลยทีเดียว โดยที่นี่จะเป็นจุดชายแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศเมียนมา โดยที่เพื่อนๆ คนไหนที่อยากข้ามไปเที่ยวเมียนมาก็สามารถทำได้โดยใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียวเท่านั้น

ส่วนรอบๆ บริเวณ ด่านเจดีย์ 3 องค์ ก็จะเป็นตลาดทั่วไปครับ แต่ไฮไลค์ก็คือมีตลาด Duty Free ปลอดภาษีด้วย! ดังนั้นนักท่องเที่ยวเลยนิยมมาเพื่อซื้อเครื่องดื่มของใช้ติดมือกลับไปนิดๆ หน่อยๆ ครับ

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/HamGvHpRPhVdnL7s7

ก๋วยเตี๋ยวหมูเจ๊พร

ออกเดินทางไปเที่ยวชายแดนเสร็จก็ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี มื้อนี้พวกเราขอมาฝากท้องกันไว้ที่ ก๋วยเตี๋ยวหมูเจ๊พร ที่เขาว่ากันว่าเป็น ก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยที่สุดในสังขละบุรี เมนูทางร้านมีทั้งก๋วยเตี๋ยวแห้ง น้ำ บะหมี่เกี๊ยว เย็นตาโฟ แต่ละเมนูให้มาในจานใหญ่มากกกก แต่ราคาก็ไม่ได้แพง เรียกว่าอิ่มเกินคุ้มเลยครับ ใครมา เที่ยวสังขละบุรี ผมแนะนำร้านนี้เลย อร่อยจัดจ้านราคาดีงามมากจริงๆ

เวลาเปิดปิด: 8.00น. – 18.00น. (ทุกวัน)

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/fwAjpNwJkcRcfSm39

Niche Cafe

กินคาวแล้วก็ต้องกินหวานกันต่อ พวกเราออกเดินทางมาที่คาเฟ่ใกล้ๆ กับร้านอาหารครับ ขับรถมาประมาณ 10 นาทีก็ถึงร้าน Niche Cafe

Niche Cafe เป็นคาเฟ่เล็กๆ สีขาวปนน้ำตาลสุดมินิมอลที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของธรรมชาติสีเขียว เหมาะกับการแวะมานั่งดื่มกาแฟ ทานเบเกอรี่ เพื่อเพิ่มพลังก่อนออกไปเที่ยวต่อได้ดีมากๆ เมนูที่พวกเราสั่งก็มีทั้งกาแฟและขนมเค้ก นั่งพัก เม้าท์มอยสักครู่ ก่อนออกเดินทางกลับไปยังที่พักอีกครั้งครับ

เวลาเปิดปิด: 7.00น. – 20.00น. (ทุกวัน)

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/fkSWRjw7SmdhKkKx5

Mao Deep Bar & Restaurant

หลังจากนอนกลิ้งเล่นอยู่ในที่พักช่วงบ่ายแก่ๆ ตกเย็นประมาณสัก 6 โมง พวกเราก็เดินออกมาที่ร้าน Mao Deep Bar & Restaurant ซึ่งเป็นร้านอาหารอยู่ที่ปลายสะพานมอญ

สิ่งที่พาพวกเราเข้ามาในร้านก็คือเมนูกุ้งถังที่กลิ่นหอมมากๆ แถมไม่ได้ดีแค่กลิ่นครับ รสยังจัดจ้าน อร่อยมากๆ และที่สำคัญมาทานเวลาเย็นๆ แบบนี้ พลาดไม่ได้เลยก็วิวพระอาทิตย์ตกของสะพานมอญครับ สวยมากๆ ใครที่มาพักที่ แพลุงบุญ แล้วไม่อยากเดินไปทางอาหารไกลๆ ที่นี่ถือว่าตอบโจทย์ดีมากๆ เลยครับ

หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ก็เข้าที่พักไปชิลล์ต่อตามสไตล์ครับ

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/hhM5D4wm9gpbqHQo7

เที่ยวกาญจนบุรี-สังขละบุรี วันที่ 3

อาหารเช้าในที่พัก แพลุงบุญ สังขละบุรี -โซน A

เช้าวันที่ 3 ของการท่องเที่ยว วันนี้พวกเราไม่ได้ตื่นเช้าแล้วครับ เพราะวันนี้ต้องขับรถเดินทางไกลกลับเข้าไปที่ตัวเมืองกาญจนบุรี โดยที่อาหารเช้าวันนี้ทางที่พักยังคงยกมาเสิร์ฟแบบจัดเต็มเหมือนเมื่อวาน

หลังจากทางอาหารเช้า อาบน้ำแต่งตัว เก็บของ เรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ทำการเช็คเอ้าท์ แพลุงบุญ สังขละบุรี -โซน A และออกเดินทางไป เที่ยวกาญจนบุรี กัน

จุดชมวิวป้อมปี่

ระหว่างทางพวกเราได้แวะที่ จุดชมวิวป้อมปี่ เพื่อแวะถ่ายรูปและชมวิวกันสักเล็กน้อย

จุดชมวิวป้อมปี่ ตั้งอยู่ใน เขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวธรรมชาติที่สวยงามได้อย่างชัดเจน บริเวณโดยรอบจะเป็นอ่างเก็บน้ำที่ล้อมด้วยป่าไม้และภูเขา บรรยากาศดีสุดๆ ยิ่งถ้าได้มาในช่วงหน้าหนาวกับหน้าฝน อากาศก็ยิ่งจะดีขึ้นไปอีก พร้อมหมอกที่ลอยอยู่บริเวณเหนือน้ำ สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็น ปางอุ๋งของเมืองกาญจนบุรี เลย

แนะนำว่าถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากหาจุดชมวิวดีๆ อยู่ระหว่างทางไปเที่ยวสังขละบุรีละก็ จุดชมวิวป้อมปี่ เป็นที่ๆ น่าแวะมามากๆ รับรองได้ชมวิวสมใจ แถมอาจจะได้รูปกลับไปอีกเพียบเลยก็ได้

เวลาเปิดปิด: 8.30น. – 16.30น. (ทุกวัน)

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/cw6ZSn3F63ja5Zih8

ร้านอาหารซุ่นเฮง ผัดไทยไร้เส้น

หลังจากออกเดินทางมาเกือบ 3 ชั่วโมง พวกเราก็เดินทางมาถึงตัวเมืองกาญจนบุรีในที่สุด โดยที่แรกที่พวกเรามาก็คือ ร้านอาหารซุ่นเฮง ผัดไทไร้เส้น เพื่อแวะทานมื้อเที่ยงกันก่อน

ร้านอาหารซุ่นเฮง ผัดไทยไร้เส้น เป็นร้านขายผัดไทยเก่าแก่ประจำเมืองกาญจนบุรีที่มีตำนานกว่า 85 ปี แน่นอนว่าเมนูเด็ดของร้านก็คือ ผัดไทยไร้เส้น ตามชื่อร้าน ซึ่งผัดไทยนี้เป็นสูตรเฉพาะของร้านซุ่นเฮง ให้เครื่องเน้นๆ รสชาติกลมกล่อมไม่เหมือนที่ไหน นอกจากผัดไทยแล้วที่นี่ก็ยังมีอาหารจานเดียว ทั้งเมนูยำและกับข้าว พร้อมเสิร์ฟให้ลูกค้าทุกท่านอีกด้วย

เมนูที่พวกเราแนะนำก็ตามนี้เลย

• ผัดไทยไร้เส้น
• ขนมเบื้องไข่ไส้ไชโป๊วสับกับถั่วงอก
• กระเพาะปลาน้ำแดง

เวลาเปิดปิด: 10.30น. – 16.00น. (ทุกวัน)

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/eoozbFxtm538sTaN9

เข้าพัก Fairest Domestay

หลังจากอิ่มท้อง พวกเราก็เดินทางเข้าที่พักคืนนี้เพื่อพักผ่อน โดยวันนี้พวกเราเลือกพักกันที่ Fairest Domestay

Fairest Domestay เป็นที่พักขนาดเล็กแต่อบอุ่น มีห้องพักสไตล์เต็นท์โดมก้อนกลมตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติราวกับเทพนิยาย ตัวที่พักค่อนข้างส่วนตัวมากๆ เพราะมีเพียง 4 ห้องเท่านั้น แถมแต่ละห้องยังอยู่กันคนละมุม ให้ความไพรเวทแบบสุดๆ

ตัวห้องเต็นท์โดมมีขนาดกว้างกว่าที่คิดเอาไว้มาก ตกแต่งในสไตล์โทนขาวไม้มินิมอล แถมสิ่งอำนวยความสะดวกยังมีครบทุกอย่าง เรียกว่าเข้าพักได้เลยแบบแทบไม่ต้องเตรียมอะไรมา บริเวณด้านนอกของห้องพักก็จะมี อ่างจากุชชี่ ไว้ให้เพื่อนๆ ลงแช่พร้อมชมวิวธรรมชาติได้แบบฟินๆ อีกด้วย

เพื่อนๆ สามารถดูรายละเอียดและรีวิวฉบับเต็มได้ที่ลิงค์ด้านล่างได้เลย!

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/VU67Ri6So4zs1sGw8

ตลาดโต้รุ่งเมืองกาญจนบุรี

มาถึงเมืองกาญจนบุรีทั้งทีก็พลาดไม่ได้กับการไปเดินเล่นหาของกินที่ ตลาดโต้รุ่งเมืองกาญจนบุรี โดยพวกเราทั้ง 4 คนได้ทำการฝากท้องมื้อเย็นไว้ที่นี่

โตเกียวเนยนมเจ้าแรก เจ้าดัง โต้รุ่งกาญจนบุรี

เปิดฉากร้านแรกด้วยของหวานที่บอกเลยว่า สายหวานถูกใจสิ่งนี้แน่นอน เป็นโตเกียวแป้งแผ่นบางๆ ทอดด้วยเนยนมแบบจัดเต็ม ไม่ยั้ง ฉ่ำๆ กันไปเลยทีเดียว ยิ่งกินตอนร้อนๆ นี่กรอบได้ใจมากๆ เพื่อนๆ คนไหนที่มาที่นี่ก็ห้ามพลาดสิ่งนี้เด็ดขาด

ราคาชุดเล็ก 20.- ชุดใหญ่ 30.-

นิแดง มุสลิมบ้านครัว

ของหวานไปแล้วก็ตามด้วยของคาวสักหน่อย จัดไปเต็มๆ กับ ข้าวหมกไก่นิแดง ข้าวหอมเครื่องเทศกับไก่นุ่มๆ บอกเลยว่าอร่อยฟินมากๆ แถมให้เยอะแบบพูนๆ จาน ใครกลัวไม่อิ่ม มาจัดร้านนี้ได้ อิ่มคุ้มเกินราคา

ราคาข้าวหมกไก่ 1 อย่าง 40.-

ราคาข้าวหมกไก่ 2 อย่าง 50.-

หลังจากนั้นพวกเราก็เดินกินอย่างละนิดอย่างละหน่อย เช่น ไอติม ไส้กรอกอีสาน และอื่นๆ ก่อนเดินทางกลับพักผ่อนที่ Fairest Domestay

เวลาเปิดปิด: 17.00น. – 4.00น. (ทุกวัน)

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/p9AJ24SYzTnFbQbM7

เที่ยวกาญจนบุรี-สังขละบุรี วันที่ 4

อาหารเช้าในที่พัก Fairest Domestay

ตื่นปุ๊บก็กินปั๊บ เช้านี้พวกเราฝากท้องไว้กับอาหารเช้าของทาง Fairest Domestay (รวมอยู่ในค่าห้องแล้ว) ซึ่งเมนูอาหารเช้าพวกเราได้เลือกเอาไว้แล้วตอนมาเช็คอิน โดยที่สามารถเลือกได้ระหว่าง อเมริกันเบรคฟาส (American Breakfast) ที่ประกอบไปด้วย ไข่ดาว แฮม เบคอน ไส้กรอก และสลัด หรือ จะเลือกเป็น ข้าวต้ม ก็ได้ เช่นกัน ซึ่งจะเสิร์ฟพร้อมกับ สลัด ผลไม้ กราโนล่าและโยเกิร์ต น้ำส้ม พร้อมชากาแฟที่สามารถเลือกร้อนหรือเย็นก็ได้ นอกจากนี้เพื่อนๆ สามารถเลือกได้ว่าจะให้มาเสิร์ฟทานในห้องพักแบบส่วนตัว (ตั้งแต่เวลา 8.30 น. – 10.30 น.) หรือจะไปนั่งทานที่ Rainforest Cafe ก็ได้ (ตั้งแต่เวลา 9.30 น. – 10.30 น.)

Rainforest Cafe

หลังจากทานอาหารเช้า อาบน้ำ แต่งตัว เก็บของออกจากที่พัก พวกเราก็มาแวะกันที่ Rainforest Cafe ก่อนออกเดินทางไปเที่ยวกาญจนบุรีกันต่อ

Rainforest Cafe เป็นคาเฟ่ของที่พัก สามารถเดินทะลุกันได้จากส่วนของห้องพักแบบไม่ถึง 5 นาที ตัวคาเฟ่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติบรรยากาศสีเขียวขจี และล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ราวกับอยู่ในป่าอันร่มรื่น

ที่นี่เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุด ตั้งแต่ 09.00น. – 20.00น. โดยมีเมนูให้เลือกทานมากมายตั้งแต่ขนมปัง ขนมเค้ก ชา กาแฟ และยังมีเมนูพิเศษในแต่ละช่วงเทศกาลอีกด้วย

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/tgZ7z7URfSBptEJx8

Safari Park Kanchanaburi

มา เที่ยวกาญจนบุรี ทั้งทีก็ต้องไม่พลาดที่จะมาเที่ยวสวนสัตว์ Safari Park Kanchanaburi (ซาฟารีปาร์ค กาญจนบุรี)

มาครั้งนี้พวกเราเลือกเที่ยวแบบนั่งรถของทางสวนสัตว์ไปยังส่วนสวนสัตว์เปิด พร้อมกับซื้ออาหารไปป้อนน้องๆ สัตว์ระหว่างนั่งรถชม โดยเริ่มแรกจากการพบปะน้องกวาง น้องหมี น้องเสือ สิงโต จนไปถึงจุดไฮไลค์ก็คือช่วงของน้องยีราฟ ที่น้องๆ ยีราฟจะยื่นหัวเข้ามากินอาหารในรถ ให้ได้ถ่ายภาพแบบใกล่ชิดกันด้วย

ส่วนเพื่อนๆ คนไหนที่พอมีเวลาก็สามารถไปทัวร์ยีราฟแบบ private ได้ด้วย โดยเพื่อนๆ สามารถลงจากรถมาถ่ายรูปกับน้องๆ ยีราฟกลางสวนสัตว์เปิดได้อีกด้วย

เวลาเปิดปิด: 9.00น. – 17.00น. (ทุกวัน)

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/kBptmABqki4XiCGk9

บ้านลุงชวน สวนป้าติ๋ว

ก่อนกลับกรุงเทพฯ พวกเราก็แวะมาทานอาหารกลางวันกันที่ บ้านลุงชวน สวนป้าติ๋ว เป็นการส่งท้าย

บ้านลุงชวน สวนป้าติ๋ว เป็นร้านอาหารไทยพื้นบ้าน สไตล์บ้านสวน แต่ความอร่อยเรียกว่าจัดจ้านแบบคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว แถมนอกจากอาหารไทยพื้นบ้านแล้ว ทางร้านยังมีเมนูแปลกๆ เด็ดๆ ที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านให้เพื่อนๆ เลือกสั่งได้อีกด้วย

เมนูที่พวกเราสั่งมีตามนี้เลย บอกเลยว่าแนะนำทุกเมนู!

• ใส้อั่วคุณนิ (120.-)
• แกงส้มญวณ ปลาคัง (150.-)
• ไข่เจียวลุงชวน (100.-)
• ยำผักบุ้งกรอบพร้อมน้ำยำกุ้งสด (160.-)
• น้ำพริกตาบล (150.-)
• หมูตีแปลง (150.-)

เวลาเปิดปิด: 10.00น. – 20.00น. (ทุกวัน)

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/wj5ZRk92XCknd86n8

ร้านแก้วของฝากเมืองกาญ

ระหว่างทางกลับ พวกเราก็ขอแวะ ร้านแก้วของฝากเมืองกาญ ซื้อของฝากกันสักเล็กน้อย ที่นี่มีขนมให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น ขนมชั้น ใบเตย และ ชาไทย วุ้นน้ำมะพร้าว วุ้นกะทิ สลิ่มชาววัง และทองม้วนกรอบสูตรเจ แถมถ้าไปจังหวะดีๆ จะได้ขนมที่เพิ่งทำเสร็จสดใหม่จากเตาเลย

ใครกำลังอยากรู้ว่าไป เที่ยวกาญจนบุรี แล้วหาของฝากได้ที่ไหน แวะมาที่นี่ที่เดียวครบจบทุกเรื่องของฝากครับ!

เวลาเปิดปิด: 8.00น. – 18.00น. (จันทร์ – ศุกร์) / 7.00น. – 19.00น. (เสาร์ อาทิตย์)

Google Maps: https://maps.app.goo.gl/tJvqN5MjaRGoqA5FA

เดินทางกลับกรุงเทพฯ

เสร็จสิ้นภารกิจซื้อของฝากก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ครับ เป็นอันจบทริปยาว เที่ยวกาญจนบุรี 4 วัน 3 คืน พร้อม เที่ยวสังขละบุรี

บทความ แจกแพลนเที่ยว ที่คุณอาจสนใจ

บทความ เที่ยวกาญจนบุรี และ เที่ยวสังขละบุรี ที่คุณอาจสนใจ